รีวิวงานแต่งโทน Mocha Mousse สะกดทุกสายตาด้วยงานผ้า สวยหรูราวฉากภาพยนตร์ @Millennium Hilton Bangkok

จัดงานแต่งแบบ Full Option ในห้องจัดเลี้ยงสวยหรูต้องที่ Millennium Hilton Bangkok

       เนื่องจากเจ้าสาว (คุณทราย) ทำงานอยู่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่ จึงใช้เวลาในการเตรียมงานแต่งมากถึง 1 ปีครึ่ง โดยมีโจทย์แรกที่ตั้งไว้คือ อยากจัดงานแบบ Full Option มีพิธีเช้า-เย็นและ After Party จึงอยากได้สถานที่จัดงานเป็นโรงแรม เพราะมีทีมงานที่มีประสบการณ์สูง สามารถจัดงานทุกพิธีได้จบในที่เดียว

       ผม (คุณอุ้ย) ไปดูโรงแรมมาหลาย ๆ แห่ง แต่มาตกผลึกเลือกที่ Millennium Hilton Bangkok (โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ) เพราะเคยไปพักช่วงโควิดแล้วรู้สึกชอบในการบริการ และดีไซน์ของโรงแรมที่ดูหรูหรา น่าจะเข้ากับธีมงานแต่งที่มีอยู่ในใจ อีกทั้งพิธีหมั้นของพวกเรายังมีแขกค่อนข้างเยอะ ที่นี่มีห้อง Thonburi Ballroom ที่เหมาะกับจำนวนแขกของพวกเราด้วยครับ

เคล็ดลับจัดงานแต่งสำหรับบ่าวสาวที่อยู่ไกลกัน

       อันดับแรกคิดคอนเซ็ปต์งานแต่งแล้วเลือกสถานที่ที่เหมาะสมกับงานแต่งของพวกเรา อย่างที่สองเจ้าสาวก็เริ่มวางแผนจากสิ่งที่อยากได้ ดู Reference จากโซเชียลและมองหา Vendor เช่น ช่างภาพ ช่างวิดีโอ ช่างแต่งหน้าทำผม ชุดแต่งงาน ฯลฯ เมื่อได้ทุกอย่างครบ ต่อมาผมก็มองเรื่อง Decoration ซึ่งโชคดีที่พวกเราวางแผนและดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ไปเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว เราเลยตัดสินใจใช้บริการในส่วนของ Decoration กับ Organizer เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ Wedding Planner ครับ

       พอมีคนหนึ่งอยู่ต่างประเทศเราเลยวางแผนตั้งแต่งดูเรื่องวันหยุดที่เจ้าสาวสะดวกกลับมาไทย ก็จะใช้เวลาไปกับการถ่าย Pre-wedding หรือ Fitting ชุดแต่งงาน หรือไป Food Tasting ส่วนอะไรที่ผมสามารถทำได้คนเดียวล่วงหน้าก็จะทำสรุปแล้วพูดคุยกับเจ้าสาวผ่านทางออนไลน์ ต้องวางแผนตารางเวลาให้ดี และคอย Follow-up กันครับ

บ่าวสาวสายรักษ์โลก เน้นตกแต่งด้วยงานผ้าโทน Mocha Mousse สร้างบรรยากาศเรียบหรูโดยไม่ง้อดอกไม้

       คอนเซ็ปต์หลักในงานแต่งพวกเราตั้งใจทำออกมาให้คล้ายกับงานประกาศรางวัลหรือเดินพรมแดงของเหล่าดารา ทุกคนสามารถเป็นเซเลบริตี้ได้ที่งานแต่งของพวกเราเลยครับ (หัวเราะ) ซึ่งการตกแต่งจะเน้นความเรียบหรู โดยใช้สี Mocha Mousse เป็นหลัก

       ตั้งแต่งทางเข้างานได้ทำเป็นอุโมงค์ผ้า ระหว่างทางเดินได้ฉายรูป Pre-wedding บนผ้า และมีนักไวโอลินคอยขับกล่อมดนตรีให้กับแขกที่มาร่วมงาน สัมผัสได้ถึงบรรยากาศโรแมนติกที่กำลังจะเกิดขึ้นในงานเลี้ยงฉลอง

       ผ่านอุโมงค์ผ้าเข้ามาถ่ายรูปยังบริเวณ Backdrop ที่ทำเป็นแท่นเปิดตัว รายล้อมไปด้วยเทียนหอมสีขาว ตกแต่งฉากหลังด้วยผ้าโดยเลือกใช้สี Mocha Mousse ให้ล้อไปกับ Decoration ของโรงแรม ผมพยายามจะใช้ Facility ของแรมให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

       บริเวณเวทีด้านในห้องบอลรูมก็ถูกตกแต่งล้อไปกับบรรยากาศด้านนอกเช่นเดียวกัน เน้นใช้ผ้าและเทียนหอม มีประดับดอกไม้เพียงเล็กน้อย พร้อมจัดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับเเขกผู้ใหญ่ จุดเด่นอยู่ที่บริเวณกลางห้องที่เป็นที่ตั้งของเค้กแต่งงานในรูปแบบของชูครีม ซึ่งเป็นขนมที่เจ้าสาวชอบ สามารถรับประทานได้ทั้งหมดและอร่อยด้วยครับ

       ส่วนการ์ดและของชำร่วย เจ้าสาวได้ออกแบบเองทั้งหมด ตั้งแต่โลโก้งานแต่ง ดีไซน์การ์ดที่เรียบหรูเข้ากับธีม เมื่อออกแบบเรียบร้อยก็ไปสั่งผลิตครับ ทางด้านของชำร่วยที่เป็นเทียนหอม พวกเราเทหล่อเทียนกันขึ้นมาเองเลย มีอยู่ 2-3 กลิ่นผสมกันไป และนอกจากนี้เรายังมีมุม Photo Booth ที่เมื่อแขกถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็จะได้รับรูปอีกใบที่สามารถเขียนอวยพรให้กับบ่าวสาว เมื่อพวกเราเอากลับมาอ่านก็จะจำได้ด้วยว่าใครเป็นคนเขียน

       เหตุผลที่ผมเลือกใช้ผ้าในการตกแต่งเพราะ ถ้าใช้ดอกไม้เยอะ ๆ หลังจากจบงานแล้วดอกไม้ก็จะเหี่ยวเฉา ไม่ได้ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ ส่วนการใช้ผ้านั้น ทางทีม Decorate สามารถนำไปใช้ในงานอื่นต่อไปได้ ผมมองไปถึงเรื่องของ Sustainable ที่จะช่วยโลกของเราด้วยครับ

พิธีแต่งงานจีนสุดประทับใจ ที่ถ่ายทอดกลิ่นอายจีนร่วมสมัยผ่านทุกองค์ประกอบ

       ในช่วงเช้ามีการแบ่งงานออกเป็น 2 รูปแบบ อันดับแรกเป็นพิธีไทยแบบเรียบง่าย โดยมีการทำบุญ ตักบาตรและถวายสังฆทาน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เสร็จแล้วเจ้าสาวก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงานจีนสีแดงสด ดูสวยสง่าโดดเด่นที่สุดในงาน

       ทางด้านการตกแต่งบนเวทีสำหรับงานพิธีจีน เลือกใช้เป็นโทนสีแดงทั้งหมดให้เข้ากับชุดเจ้าสาว โดยใช้ผ้าสีแดงขึงเป็นฉากหลังคล้ายโรงละครเวที ประดับโคมไฟจีนเล็ก ๆ ด้านบน ทั้งสองข้างของเวทีมีสิงโต ซึ่งบริเวณลำตัวครีเอทจากดอกไม้เล็กน้อยพอให้ดูเก๋ การตกแต่งในพิธีนี้ก็จะดูจีนจ๋าเลยครับ แต่กลับเข้ากับห้องบอลรูมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ถือเป็นห้องที่ทำออกมาให้สามารถตกแต่งง่าย เข้ากับทุกธีมงานจริง ๆ ครับ

       พิธีการมีการแห่ขันหมากจีน พร้อมกับกั้นประตู ผมและเพื่อน ๆ ทำมิชชั่นกันอย่างสนุกสนาน เป็นขบวนขันหมากที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พอผ่านทุกประตูผมก็ไปรับตัวเจ้าสาวเข้ามายังพิธี เถ้าแก่ทำการสู่ขอแล้วสวมแหวนให้แก่กัน เข้าสู่พิธียกน้ำชาและป้อนขนมอี๋ ผู้ใหญ่ทุกคนที่พวกเราเคารพต่างร่วมอวยพรในพิธียกน้ำชา พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากเลยครับ จบพิธีก็มีเลี้ยงโต๊ะจีนก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

Reception & After Party ที่อบอวลไปด้วยความโรแมนติก ได้ภาพแบบ Cinematic สมใจ

       จากการตกแต่งที่ดูเรียบหรูให้บรรยากาศเหมือนงานประกาศรางวัล Mood & Tone ภาพในช่วงงานเลี้ยงฉลองก็จะให้ความรู้สึกเหมือนฉากในภาพยนตร์เลยครับ ส่วนการจัดเลี้ยงนั้น เป็นแบบ Cocktail & Food Stall อาหารนานชาติและฟิวชั่นกับอาหารไทยเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นเป็ดลมควันซอสกะเพรา พัฟหมูแดง ซึ่งแขกก็ชมกันเยอะเลยนะครับ

       พิธี Reception เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินเปิดตัวเข้ามายังห้อง Grand Ballroom สปอร์ตไลท์ก็จะจับจ้องมาทีพวกเรา ทำให้พวกเราตื่นเต้นไปกับบรรยากาศไปโดยอัตโนมัติ ส่วนกิจกรรมบนเวทีคล้ายกับงานแต่งทั่วไป มีการกล่าวอวยพร พูดความในใจ ซึ่งพวกเราอาจไม่เคยได้ยินคำซึ้ง ๆ จากเพื่อน ๆ กันบ่อยนัก งานนี้ทำให้ได้รู้ความในใจที่ทุกคนมีต่อพวกเรา เป็นความประทับที่ไม่เคยมีมาก่อน อยากเก็บเกี่ยวความรู้สึกนี้ไว้มากที่สุด

       กิมมิกในงานแต่งของเราก็จะเป็นการโรยน้ำตาลไอซิ่งที่ชูครีมแทนการตัดเค้ก ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยซ้ำใครดี เป็นโมเมนต์ที่ผมทั้งสนุกและซาบซึ้งในเวลาเดียวกัน เพราะการตั้งโต๊ะชูครีมไว้กลางห้องทำให้สามารถมองเห็นทุกคนได้อย่างทั่วถึง บรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่น เสร็จแล้วก็จบพิธีเลี้ยงฉลองด้วยการโยนช่อดอกไม้จากเจ้าสาว

       ส่วน After Party เปิดด้วยการรินแชมเปญ แล้วก็ปาร์ตี้กันยาว ๆ โดยใช้วงดนตรีสดสลับกับดีเจ เป็นปาร์ตี้ที่สนุกมาก ทุกคนกินดื่มกันอย่างสนุกสนานจนถึงเที่ยงคืน แม้ว่าพลังงานจะหมดลงไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน แต่ในใจกลับฟลูฟีลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงเท่านี้ก็ถือว่าภาพงานแต่งของพวกเราออกมาสมบูรณ์แบบแล้วครับ

เต็มอิ่มกับบรรยากาศของโรงแรมและอาหารชั้นเลิศ

       อีกหนึ่งสิ่งที่ผมตัดสินใจเลือก Millennium Hilton Bangkok เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติของอาหาร แล้ววันงานก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แขกเกือบทุกคนชมมาว่าอาหารอร่อยมาก คุณภาพดี ต้องขอชื่นชมเชฟ และคุณบิ๋มที่ช่วยจัดการทุกอย่างได้อย่าง Professional ตั้งแต่วันที่เข้าไปดูสถานที่จนจบงาน

       นอกจากนี้ บรรยากาศภายในโรงแรมยังดีมาก มีการตกแต่งสวยงามทุกจุด ห้องจัดงานแต่ละห้องมีขนาดเหมาะสม ไม่ทำให้แขกรู้สึกแออัด รวมไปถึงห้องพักของบ่าวสาว ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ สามารถแต่งหน้าทำผมเปลี่ยนชุดได้อย่างสะดวกสบาย มองเห็นวิวแม่น้ำเพลิน ๆ เหมาะแก่การพักผ่อน ตอบโจทย์บ่าวสาวที่เหนื่อยจากกิจกรรมงานแต่งตลอดทั้งวันอย่างพวกเราเลยครับ

คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว

ควรมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าเยอะ ๆ จะทำให้เราวางแพลนได้อย่างรอบคอบ เก็บรายละเอียดได้ครบไม่ตกหล่น มีเวลาในการเลือกหรือตัดสินใจ แถมอาจได้แพ็กเกจโปรโมชั่นที่คุ้มค่าอีกด้วย

แนะนำให้หา Vendor ที่เป็น Partner ซึ่งกันและกัน เช่น ช่างภาพกับช่างวิดีโอ ถ้าพวกเขาเป็น Partner กันจะสามารถช่วยเราในการประสานงานเรื่องภาพ ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้นในกรณีที่ไม่ได้มี Wedding Planner

ก่อนวันแต่งงานควรพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะถ้าจัดงานแต่งงานที่ใช้เวลาทั้งวัน บ่าวสาวจำเป็นต้องมีพลังเยอะ ๆ แขกทุกคนได้สนุกไปกับงาน และเราก็จะเต็มอิ่มในทุกโมเมนต์ครับ

Photographer : VINZ Candid, Well Organizer